"อาหารจานโปรด แต่...ไม่โปรด"
ในวันนี้มีเรื่องขำนำเสนอ
ได้พบเจอกับตัวมั่วหนักหนา
ถ้าเฉลยก็ไม่เพลินเชิญตามมา
เรื่องที่ว่าเป็นอย่างไรจะไขความ
สวัสดีค่ะ วันนี้อากาศครึ้มๆสะลืมสะลือยังไงบอกไม่ถูก จะแดดก็ไม่แดด จะตกก็ไม่ตก ช่วงนี้อากาศ
เปลี่ยนแปลงบ่อย ขอให้ทุกท่านรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
เมื่อวานนี้ตอนบ่าย ฉันและสามีได้เดินไปเล่น พูดคุยกับเพื่อนบ้านในละแวกนั้น ฉันเองก็ไม่ค่อยได้
ไปบ่อยนัก ส่วนสามีจะไปแทบทุกวันในยามว่าง การพบปะ พูดคุยกับผู้คนนี่ก็ดีไปอีกแบบค่ะ ทำให้เราได้แนวคิดของแต่ละคน นิสัยใจคอ อีกทั้งได้รับความสนุกสนานเพลิดเพลินอีกด้วย กลุ่มเด็กวัยรุ่น
เขาเปิดดูตลกคณะเสียงอีสานในยูทุปในมือถือ แล้วบรูทูธใส่ลำโพง เสียงดังฟังชัด เด็กๆก็จะรุมกันดูการแสดงในมือถือไปด้วย ส่วนผู้ใหญ่อย่างเรา
ก็พูดคุยกันเรื่อยเปื่อย พอเห็นเด็กๆเขาดูตลกกัน
พวกเราก็หยุดคุยแล้วฟังเสียงเขาเล่นตลกบ้าง
ทีนี้หละค่ะ เสียงหัวเราะทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็ดังขึ้น
บางครั้งฉันหัวเราะจนแทบจะท้องแข็งเลยทีเดียว
จนกระทั่งตกตอนเย็นฉันเลยถามสามีว่าเย็นนี้จะทานข้าวกับอะไรดี เขาจึงตอบว่าอะไรก็ได้แล้วแต่สะดวก ฉันจึงเดินกลับบ้าน แป๊บเดียวก็ถึง พอไปถึงบ้านฉันก็เสียบหม้อหุงข้าว ปกติแล้วสามีไม่ชอบ
กินข้าวหุงหรือข้าวสวย เขาเคยกินตอนเป็นหนุ่มตอนไปทำงานโรงงาน เขาจึงเบื่อมาก ก็เขาเป็นลูก
อีสาน"ลูกข้าวเหนียว"เขาชินกับข้าวเหนียวมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นเขาจึงเข็ดมาก แต่สำหรับฉันแล้ว
กินได้หมดค่ะ เมื่อถามสามีแล้วเขาตอบเช่นนั้น
แสดงว่าเขาก็คงจะพอกินได้ พอดีว่าในตู้เย็นมีเนื้อ
หมูอยู่พอดี ฉันจึงไปซื้อหอมหัวใหญ่มาผัดกระเพราซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของฉัน เสร็จแล้วก็เตรียมหั่นหอมหัวใหญ่และจัดเครื่องปรุงจนครบ จากนั้นก็เริ่มบรรเลงเลยค่ะ...555
ฉันผัดเนื้อหมูจนสุก แล้วเอาผักและเครื่องปรุงใส่
ลงไป พอผัดสุกแล้วฉันจึงชิมรสดู ฉันก็รู้สึกแปลกใจ เพราะใส่น้ำตาลลงไปทำไมไม่มีรสหวาน ฉันจึงเติมน้ำตาลอีก ผัดไปอีกก็รู้สึกว่ามันจะไหม้หม้อ ฉัน
จึงเติมน้ำเพิ่มเข้าไปอีก ลองชิมดูก็ยังไม่ออกรสหวานสักที เอ๊ะ! หรือจะเป็นเพราะว่าฉันซื้อซอสที่มีราคาถูกน๊า...น้ำตาลหมดเกือบครึ่งโลแล้ว จะเติมน้ำตาลอีกก็ยังเอะใจอยู่ ยิ่งคนเท่าไหร่อาหารก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นฉันจึงลองชิมน้ำตาลซึ่งอยู่ในถุงพลาสติกที่เขาแบ่งขายดู...โอ้...My god!
ถึงว่าสิ!...จะใส่น้ำตาลเท่าไหร่ก็ไม่มีรสหวาน ลองทายดูสิคะว่ามันเป็นอะไร ถ้าคิดไม่ออกเดี๋ยวฉันจะเฉลยให้ ก็เพราะมันเป็นถุงข้าวคั่วนะสิ
มิน่าล่ะ...เป็นเพราะข้าวคั่วนี่เองที่ทำให้ติดกะทะและเมื่อข้าวคั่วพองตัวอาหารจึงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ555
อันนี้เป็นความผิดอันใหญ่หลวงของฉันเอง ตอนนั้น
ใกล้จะมืดแล้วแต่ฉันไม่ได้เปิดไฟ ไม่ได้ดูให้ดีเสียก่อนเลยหยิบผิดถุง
พอสามีกลับมาบ้าน ฉันก็เตรียมกับข้าวไว้รอแล้ว
และทำไข่เจียวเพิ่ม พอสามีอาบน้ำเสร็จก็มานั่งจะกินข้าว ฉันจึงบอกกับสามีไม่ให้เขากินผัดหมู พอ
เขามองเห็นผัดหมู เขาจึงถามฉันว่า"นี่อะไร ทำไมจึงคล้ายฮากหมาแท้"(ฮากหมาเป็นภาษาอีสานหมายถึงอ้วกของสุนัข ต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วยนะคะที่ใช้คำไม่สุภาพ) เขากำลังจะตักใส่ชามข้าว ฉัน
จึงห้ามและบอกให้เขาชิมดูก่อน เขาลองชิมดูแล้ว
หัวเราะ เฮ้อ!...โล่งใจไปทีที่สามีไม่ดุ เขาก็กินผัดนั่นแหละค่ะจนอิ่ม ส่วนฉันกินไข่เจียวอย่างเดียว
กินผัดลองดูก็เคี้ยวแต่เม็ดข้าวคั่วบางเม็ดที่ไม่ละเอียด เป็นอันว่าผัดหมูเหลือเยอะ สามีก็กินแค่นิดเดียว ดังนั้นมันจึงกลายเป็นอาหารของ"เฉาก๊วย"สุนัขตัวโปรดของฉันต่อไป
เป็นไงบ้างคะ "อาหารจานโปรดแต่ไม่โปรด"
สนุกมั๊ย อันนี้ยอมรับผิดค่ะว่าตัวเองไม่รอบคอบ
เป็นตัวอย่างที่ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่าง ดังนั้นจะทำอะไรต้องไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนนะคะ จะได้ไม่ผิดพลาดและเสียใจภายหลังเหมือนตัวฉันเอง
ขอบคุณทุกๆกำลังใจและการติดตามนะคะ
Hi, I'm an Upvote bot. I will upvote your post if you reply to this comment with "Upvote". 👍 a-0-0
555 ที่บ้านก็สับสนเหมือนกันค่ะ ระหว่างน้ำตาลทรายขาวกับผงชูรส😄😄😁😁
เป็นเพราะไม่ดูให้ดีเสียก่อนจึงเป็นเช่นนี้จ้ะ
น่ากินไปอีกแบบมังครับ แต่ท่าทางน่าสนุกครับทำกับข้าว แต่ผมทำเป็นแค่เมนูไข่^^
555😅😅ยังขำตัวเองไม่หายเลยค่ะคุณโจ้
555ดีครับผมว่าดีออกครับ ไม่เครียดสนุกดีครับ ผมได่อ่านแล้วก็ขำๆมีความสุขตามไปด้วยครับ