สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาว Steemi ทุกท่าน

หลังจากที่หยุดงานไปหลายวัน เพื่อไปทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชน ช่วงที่ผ่านมาก็เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เราชาวพุทธก็ไปทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นสิริมงคลกับตัวเองและครอบครัว อันไหนที่ทำแล้วสบายใจ ไม่ทำให้คนอื่นเดือนร้อน ก็ทำไปเถอะค่ะ

เช้าวันนี้เราไปรับจ้างฉีดฮอร์โมนบำรุงข้าวและยาฆ่าเพลี้ย ซึ่งตอนนี้ข้าวกำลังตั้งท้องต้องให้ฮอร์โมนบำรุงให้ข้าวออกรวงเม็ดใหญ่และสมบูรณ์ และป้องกันเพลี้ยที่จะมาลงนาข้าว เฉพาะเพลี้ยกระโดด ซึ่งกำลังเริ่มระบาดในนาข้าว แต่ยังไม่มากนักก็ต้องรีบตัดไฟเสียแต่ต้นลม ถ้าเราฉีดยาป้องกันไม่ทันเพลี้ยจะลามไปทั้งทุ่ง แล้วจะเอาไม่อยู่ จะทำให้ข้าวที่กำลังตั้งท้องเสียหาย ก็จะเก็บเกี่ยวผลผลิตไม่ได้

เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล สามารถทำลายต้นข้าวในทุกระยะของการเจริญเติบโต เช่น ระยะต้นกล้า ระยะแตกกอ ระยะออกรวง ตั้งแต่ตัวอ่อนจนถึงตัวแก่สามารถทำลายต้นข้าวได้อย่างรุนแรง โดยการดูดกินน้ำเลี้ยงจากต้นข้าว ทำให้ต้นข้าวมีอาการใบเหลืองเหี่ยวแล้วแห้งเป็นสีน้ำตาลแก่คล้ายโดนน้ำร้อนลวก ต้นกล้าและต้นข้าวที่กำลังแตกกอที่ถูกเพลี้ยทำลายก็จะแห้งตาย โดยไม่มีโอกาสได้เจริญเติบโต ส่วนต้นข้าวที่ออกรวงแล้วจะมีเมล็ดข้าวที่ไม่สมบูรณ์ มีน้ำหนักเบาและล้มง่าย

ถ้าเป็นอย่างนั้นชาวนาน้ำตกในแน่ๆ เพราะลงทุนไปเยอะ ไม่ว่าจะเป็นพันธุ์ข้าว ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ยากำจัดวัชพืช ทุกวันนี้ข้าวราคาถูกแทบจะไม่คุ้มทุนที่ลงไป แต่ว่าอาชีพชาวนามันเป็นอาชีพที่ทำกันมาตั้งแต่รุ่นปู่สังกะสา ย่าสังกะสี เรารุ่นลูกรุ่นหลานก็ทำสืบทอดกันมา แม้ปัจจุบันการทำนาจะลดลง เพราะคนรุ่นใหม่จะไปทำงานในเมืองกันเสียมากกว่า

เวลาเราฉีดพ่นยาจะต้องแต่งกายให้มิดชิด สวมรองเท้าบูทยาว ใส่เสื้อแขนยาวปิดให้มิดชิด สวมหน้าหน้ากากเพื่อป้องกันฝุ่นละอองจากสารเคมีที่เราฉีด สวมหมวกปิดคลุมใบหน้า สวมถุงมือยาง และที่สำคัญดูทิศทางลม เวลาฉีดพ่นยาให้อยู่เหนือลม ละอองยาที่เราฉีดพ่นจะได้ไม่ได้ไม่สัมผัสกับผิวเรา เป็นการป้องกันเบื้องต้น นี่แหละค่ะชีวิตของกระดูกสันหลังของชาติ กว่าจะได้เป็นข้าวสารแต่ละเม็ด ต้องใช้เวลาและดูแลต้นข้าวอย่างทะนุถนอม ถ้าวันหนึ่งพวกเราหยุดปลูกข้าว ก็ไม่รู้ว่าคนไทยจะเป็นอย่างไร อาจจะกินขนมปังแทนข้าวเหมือนชาวยุโรป หรือต้องสั่งข้าวจากเพื่อนบ้านมากิน เราไม่อยากให้มีวันนั้น แต่ด้วยราคาข้าวในแต่ละปีก็ทำให้พวกเราเหนื่อยและท้อแท้มาก ปัจจุบันนี้การปลูกข้าวก็เริ่มลดน้อยลงไปมาก เกษตรกรบางคนก็ขายที่นาให้กับนายทุน หรือไม่ก็เปลี่ยนไปปลูกอย่างอื่นแทนการปลูกข้าว กระดูกสันหลังของชาติ "สู้โว้ย" เป็นการให้กำลังใจตนเองค่ะ สำหรับวันนี้ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่เข้ามาให้กำลังใจกัน ขอบคุณมากค่ะ @puza