Ulog Day#11"ชีพจรลงเท้า"
ตกมาในปีนี้มีเรื่องคิด
ในดวงจิตเฝ้าคะนึงคิดถึงพี่
ความเจ็บป่วยมารุมเร้าเศร้าฤดี
เป็นห่วงพี่จึงรีบมาไม่ช้าพลัน
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ช่วงนี้ฉันจะเดินทางบ่อย ไม่ได้ไปเที่ยวหรอกค่ะ แต่เป็นเพราะพี่ชายที่ไปตั้งรกรากอยู่ไกลไม่สบาย แกเจ็บออดๆแอดๆมานานแล้ว หมอบอกว่าแกเป็นถุงลมโป่งพอง ก็จะไม่เป็นได้ไง
แต่ละวันแกสูบบุหรี่ปาเข้าไปวันละ2ซอง ซึ่งแต่ละซองก็มีตั้ง20มวน แกสูบบุหรี่เป็นว่าเล่น แรกๆก่อนที่แกจะไปหาหมอ แกไอเป็นเลือด แล้วก็หอบเหนื่อย ลูกจึงพาไปหาหมอ หมอบอกว่าแกเป็นถุงลมโป่งพอง หมอบอกให้เลิกสูบบุหรี่ ต่อหน้าลูกและภรรยา แกก็จะสูบนิดหน่อย แต่แกไม่ได้อยู่กับภรรยาทุกวัน นานๆครั้งแกถึงจะกลับมาเยี่ยมบ้าน แกไปควบคุมการทำงานของหลานชายและคนงาน2-3คนที่ภาคใต้ คือว่าแกมีเครื่องเจาะน้ำบาดาล แกก็จะไปนั่งเฝ้าดูการทำงาน หาบ่อที่จะเจาะ เรียกว่าเป็นผู้จัดการทั้งหมด วันๆแกก็จะนั่งดูเขาทำงานกันและคอยบอกโน่นบอกนี่ ในขณะที่นั่งดูนั้น ก็ใช่ว่าแกจะนั่งอยู่เฉยๆ แกก็จะสูบบุหรี่ไปด้วย
ถึงแม้ว่าหมอจะห้ามไม่ให้สูบบุหรี่ แต่แกก็ห้ามตัวเองไม่ได้ แกรักษาตัวมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ไปหาหมอ หมอก็จะพ่นยาทุกครั้ง แกเป็นมาเรื่อยๆ จนได้ปีกว่าๆอาการของแกทรุดหนัก แกกินข้าวได้วันละ5-6คำ ร่างกายแกจึงซูบผอมลงมาก แกมีอาการเหนื่อย หอบ หลานชายจึงพาแกกลับมาบ้าน คราวนี้แกนั่งกับหมอนนอนกับเสื่อ แต่ก็พอเดินแบบก้มๆเข้าห้องน้ำได้โดยมีภรรยาคอยพยุงไป เพราะห้องน้ำอยู่ไม่ไกลนัก ช่วงนี้หมอจะนัดอยู่เรื่อยๆ แกก็ไปตามหมอนัด ส่วนบุหรี่แกเลิกไม่ได้ แกจึงสูบเฉพาะหลังอาหารทั้ง3มื้อ
หลังจากงานบวชหลานชายเสร็จสิ้นลง ซึ่งวันบวชจริงๆแกไปไม่ได้ วันหลังฉันจึงเดินทางมาเยี่ยมแกพร้อมด้วยพี่สาวทั้งสองและพี่เขย ซึ่งพี่เขยไปเอาต่อและแกก็ได้กินสมใจ
วันต่อมาพี่ชายอีกคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับฉันชวนฉันมาเยี่ยมอีก ฉันก็มาเช่นเคย เรามาถึงที่นี่เกือบเที่ยง พอมาถึง เราก็ตรงเข้าไปไหว้แก พอแกรู้ว่าญาติๆมาเยี่ยม แกก็ลุกขึ้นมานั่งพูดคุยด้วยอาการที่เหนื่อย หอบและมีไอเป็นครั้งคราว พี่ชายที่ฉันนั่งรถมาด้วยจึงแนะนำให้แกไปหาหมอ แกบอกว่าหมอนัดพรุ่งนี้
เราเหลือบดูเวลาใกล้เที่ยงพอดี พี่ชายคนที่มากับฉันจึงบอกให้ไปหามะละกอห่ามมาตำ เพราะว่าแกชอบ พี่คนที่ไม่สบาบนี้แกจะปลูกมะละกอเอาไว้เยอะมาก จนสุกแล้วหล่นทิ้ง บางทีแกก็จะไปสอยลงให้ปลากิน
พอฉันได้มะละกอมา พี่ชายคนที่มาด้วยกันก็จัดการเอาเปลือกออกแล้วสับ ปกติแล้วฉันจะเป็นคนสับมะละกอตลอด แต่เนื่องจากวันนี้ฉันทำไม่ได้เพราะมือของฉันมันบวม พี่ก็เลยต้องสับแทน
พอแกสับมะละกอเสร็จ ฉันจึงนำไปตำส้มตำ เสร็จแล้วก็ยกออกมากินกัน เรามาด้วยกัน7คนคือฉัน พี่ชายและภรรยา หลานสาว หลานเขย ลูกสาวของหลานสาวและพี่ชายอีกคน นานๆครั้งเราจะได้นั่งล้อมวงกินข้าวด้วยกันสักที รู้สึกว่าอาหารในมื้อนี้ช่างอร่อยเสียนี่กระไร เราเอาผักเขียวคุ้ยกับส้มตำ ดูท่าทางพี่ๆและหลานๆอร่อยกันทุกคน ผักเขียวหรือเทาเอามาปรุงใส่เครื่องปรุงซึ่งเราเรียกว่าลาบเทา ลาบเทานี้เป็นอาหารโปรดของฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่กินแล้ว
เพราะเคยได้ยินเขาเล่าว่าในผักเขียวหรือเทามีพยาธิ ฉันเลยหยุดกินตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่พี่ๆและหลานๆก็ยังยังคงกินกันอยู่
ดูท่าทางคนป่วยจะมีความสุขมากที่เห็นญาติๆมาเยี่ยมและกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย จากที่แกกินข้าวไม่ได้ ทำให้แกอยากกินขึ้นมาทันที แกจึงบอกให้ขยับจานส้มตำและผักเขียวเข้าไปใกล้ๆ ฉันตำส้มตำเผ็ดมาก แกเอาผักเขียวคุ้ยส้มตำ แกกินได้4-5คำแล้วบอกว่าอร่อย ปกติแกจะกินได้คำสองคำ
พอกินข้าวเสร็จ เราก็พูดคุยกันได้พักใหญ่ๆ หลานสาวซึ่งเป็นพยาบาลจะได้ขึ้นเวรบ่ายตอน4โมงเย็น เราจึงเข้าไปไหว้ร่ำลาและผูกข้อไม้ข้อมือพร้อมกับอวยพรให้แกหายไวๆ แกถึงกับร้องไห้โฮ ปลื้มอกปลื้มใจ ทำให้พวกเราก็พลอยมีน้ำไหลออกตาไปด้วย มาคราวนี้รู้สึกว่าพี่ชายกินข้าวได้ ทำให้พวกเรารู้สึกดีใจ จากนั้นเราจึงเดินทางกลับบ้าน
ตอนเช้าวันรุ่งขึ้น พี่สาวซึ่งอยู่คนละหมู่บ้านแต่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นัก โทรมาเล่าให้ฉันฟังว่าหลานสาวโทรมาบอกว่าพี่ชายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน อาการทรุดหนัก หายใจไม่ออกและถ่ายอุจจาระออกมามาก ดูอาการแล้วน่าจะรอดยาก แกถามฉันว่าจะไปด้วยมั๊ย? เพราะเมื่อวานนี้ฉันก็ยังอยู่กับแกเลย ฉันตกลงว่าไป หลานเขยซึ่งเป็นลูกเขยของพี่สาวคนโตเลยขับกระบะมารับที่บ้าน เราไปกัน4คนคือฉัน พี่สาว พี่เขยและหลานเขย เรามาถึงโรงพยาบาลผาขาวในตอนบ่าย โรงพยาบาลแห่งนี้น่าอยู่มาก เพราะกว้างขวาง ไม่แออัด มีต้นไม้เยอะดูร่มรื่น เป็นโรงพยาบาลแบบบ้านนอกมากๆ นอกจากบริเวณรอบๆจะกว้างขวางน่าอยู่แล้ว เตียงคนป่วยยังไม่แออัดอีกด้วย
พอไปถึงโรงพยาบาล พวกเราก็เดินไปที่เตียงซึ่งแกกำลังนอนอยู่ พอแกเห็นญาติพี่น้องจากทางไกลไปเยี่ยม แกตื้นตันใจจนเกือบจะร้องไห้ แกเล่าให้พวกเราฟังว่าขณะที่ลูกพาแกมาโรงพยาบาล แกหายใจไม่ทั่วท้อง เวลาแกหายใจ มันเหมือนมี
อะไรมาอุดตันที่คอ แกเหงื่อแตก หายใจไม่ออก ปวดอุจจาระ แกถ่ายออก2กระโถน แกทั้งเหนื่อยและหายใจไม่ออก แกคิดในใจว่าไม่รอดแน่ จากนั้นแกก็หมดสติ พอมาถึงโรงพยาบาล หมอก็ใช้ออกซิเจนช่วยหายใจ ให้น้ำเกลือและเข้ายา อาการของแกค่อยดีขึ้น เมื่อแกรู้สึกตัวขึ้นมา เหมือนกับว่าแกตายแล้วเกิดใหม่ แกกล่าวขอบคุณหมอและพยาบาลที่ช่วยชีวิตแกให้รอดคืนมาได้
พวกเราจึงถามแกว่าอยากกินอะไร แกก็บอกตามจริง ลูกสาวแกก็ทำให้กินทุกอย่างที่แกอยากกิน ฉันจึงอยู่เฝ้าแกกับลูกสาวของแกที่โรงพยาบาล ส่วนคนที่มาด้วยกันก็ให้กลับไปนอนที่บ้านของแก
เพราะการนอนโรงพยาบาลจะไม่สะดวก แถมยังมียุงเยอะอีกด้วย
อาการของแกก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ฉันมาเฝ้าดูอาการของพี่ชายเป็นคืนที่2 ถ้าอาการเป็นนอย่างนี้เรื่อยๆ พรุ่งนี้ฉันและพี่ๆที่มาด้วยกันก็คงจะเดินทางกลับบ้านได้
จากคนที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ตอนนี้ก็กินข้าวได้ มีปวดเอวนิดหน่อย สามารถพูดคุยทางมือถือได้โดยไม่เหนื่อย
ฉันก็ได้แต่ภาวนาให้อาการของพี่หายวันหายคืน
แต่ก็นั่นแหละ ในโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน เราจึงควรจะปลงไว้เสียแต่เนิ่นๆ เพราะถ้าเวลานั้นมาถึงจริงๆ
เราจะได้มีสติ ไม่เป็นทุกข์กับสิ่งที่สูญเสียมากเกินไป
สำหรับวันนี้ฉันต้องขอตัวก่อน ขอให้เพื่อนๆจงมีแต่ความสุขกันทุกคน สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ
ขอขอบคุณทุกๆกำลังใจและการติดตาม
Thank you to visiting my post and follow me.
ชีพจรรองเท้าจริงๆแระครับ ^_^ สู้ๆเดินหน้ากันต่อไปครับ
Posted using Partiko Android
สู้ๆค่ะคุณโจ้ ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณเช่นกันครีบพี่นาง
Posted using Partiko Android
😋😋😋
Thank you.
ขอให้หายไวๆกลับมามีสุขภาพแข็งแรงดังเดิมครับ
ขอบคุณค่ะ
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะพี่นาง
ขอบคุณค่ะคุณอ้อม
เบียขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้โปรดอวยพรให้พี่ชายของคุณป้าหายจากอาการป่วยในเร็ววันนี้นะครับ
ผมจะคอยเป็นกำลังใจให้คุณป้าครับ สู้สู้นะครับ ^^
ขอบใจเบียร์นะที่เป็นกำลังใจให้ป้า ป้าก็ขอให้เป็นเช่นนั้น
Congratulations @sunittra! You have completed the following achievement on Steemit and have been rewarded with new badge(s) :
Award for the number of upvotes
Click on the badge to view your Board of Honor.
If you no longer want to receive notifications, reply to this comment with the word
STOP
To support your work, I also upvoted your post!